ยินดีต้อนรับสู่ Blogger ของ นางสาวเปมิกา เปาะทองคำ วิชา การบริหารสถานศึกษาปฐมวัย ค่ะ

วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560

วัน พุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 8
วิชา การบริหารสถานศึกษา (Pre-School Administration)
กลุ่มเรียน 102
อาจารย์กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
วัน พุธ ที่  1 มีนาคม 2560


สะท้อนการเรียน



การวิเคราะห์ SWOT






S : Strong (จุดแข็ง)

W : weak (จุดอ่อน)

O : Opportunity (โอกาส)

T : threat (อุปสรรค)



S และ W เป็น การวิเคราะห์ภายในองค์กร (Internal analysis)

O และ T เป็น การวิเคราะห์ภายนอกองค์กร (External analysis )
    หลักการวิเคราะห์โดยตรวจสอบตนเองเปรียบเทียบกับสภาวะแวดล้อมภายนอกองค์กร ซึ่งสภาวะแวดล้อมภายนอก หมายถึง สภาพแวดล้อมที่องค์กรไม่สามารถควบคุมได้ หรือไม่ได้เกิดจากตัวองค์กรเอง
    - S เรามีจุดแข็งอะไรบ้างในองค์กร เช่น พนักงานมีประสิทธิภาพ อายุงานของพนักงานมากและสามารถพัฒนาได้ง่าย
    - W เรามีจุดอ่อนอะไรบ้างในองค์กร เช่น การส่งมอบล่าช้ากว่าคู่แข่ง การประสานงานไม่ดี การบริการไม่ดี
    - O จากสภาพแวดล้อมภายนอกอะไรบ้าง ที่เอื้อประโยชน์ให้องค์กรเรา เช่น ถ้าเราอยู่ในธุรกิจขนส่ง ราคาน้ำมันที่ต่ำลงถือเป็นโอกาสในการทำกำไร เป็นต้น
    - T จากสภาพแวดล้อมภายนอกอะไรบ้าง ที่เป็นอุปสรรคต่อองค์กร เช่น ในธุรกิจขนส่ง ถ้าน้ำมันขึ้นราคา ถือว่าเป็นอุปสรรคต่อองค์กร เพราะจะทำให้ผลกำไรลดลง เป็นต้น
      ส่วนใหญ่สภาวะแวดล้อมภายนอกขององค์กรจะเกี่ยวกับ การเมือง สังคม แนวโน้มการเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกค้า รวมไปถึงสภาวะทางเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ ข่าวโรคระบาด สงครามระหว่างประเทศ ซึ่งทีมงานขององค์กรต้องทำการวิเคราะห์ในดี ไม่เอนเอียง เพราะถ้าเอนเอียงแล้วจะไม่สามารถนำผลวิเคราะห์ทำการปรับปรุงองค์กรได้ หรือบางครั้งอาจเลวร้ายถึงขนาดชักนำองค์กรไปผิดทางได้นอกจากนี้เราต้องจับสถานการณ์ภายนอกองค์กรให้ดี จุดแข็งบางเรื่องที่เคยเป็นจุดแข็ง เมื่อมีคู่แข่งมากขึ้น จุดแข็งก็อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนได้ เช่นกัน
      ดังนั้น การทำ SWOT ควรใช้ทีมงานทุกแผนกและอาจจะใช้หัวหน้างาน ผู้บริหารระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูงมาทำร่วมกัน และรวบรวมจุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และอุปสรรคทั้งหมดมารวมกัน และต้องเปิดโอกาสให้ผู้เสนอ SWOT ให้เหตุผลและอธิบายสาเหตุว่าทำไมจึงให้หัวข้อนี้เป็นจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส หรืออุปสรรค จากนั้นให้ที่ประชุมซักถามและออกความเห็น แล้วใช้มติที่ประชุมเป็นการชี้ขาดว่าเห็นชอบหรือไม่ หรือจะเปลี่ยนเป็นประเภทอื่น

skills (ทักษะที่ได้รับ)
    -ทักษะการวิเคราะห์
Adoption (การนำไปใช้)
   - นำไปใช้ในการบริหารองค์กรต่อไป
Evaluation (การประเมิน)
  Instructor Rating (ประเมินผู้สอน) แต่งกายสุภาพ อธิบายถึงหลักการSWOT ได้อย่างเข้าใจ
        Rating friends (ประเมินเพื่อน) ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำกิจกรรมกันทุกคน
        Self-evaluation (ประเมินตนเอง)มีความเข้าใจเพิ่มขึ้น


วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 7
วิชา การบริหารสถานศึกษา (Pre-School Administration)
กลุ่มเรียน 102
อาจารย์กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
วัน พุธ ที่  22 กุมภาพันธ์ 2560


สะท้อนการเรียน




วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 6
วิชา การบริหารสถานศึกษา (Pre-School Administration)
กลุ่มเรียน 102
อาจารย์กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
วัน พุธ ที่  15 กุมภาพันธ์ 2560


 สะท้อนการเรียน


                    การบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย มีลักษณะการบริหารเฉพาะตัว โดยที่ต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้ 
   1. นโยบาย และยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศของรัฐบาล
   2. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
   3. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
   4. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
   5. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
   6. ปรัชญา นโยบายและวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา
   7. ความต้องการของชุมชน

การจัดประเภท และรูปแบบสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย
1. การจัดแบ่งตามโครงสร้างการบริหารตามขนาด แบ่งเป็น 3 ขนาด คือ
     1) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดเล็ก
     2) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดกลาง 
     3) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดใหญ่
2. การแบ่งตามรูปแบบตามพระราชบัญญัติการศึกษาชาติ 
(พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 )พ.ศ. 2545 กล่าวไว้ใน มาตรา 15กำหนดการจัดการศึกษา มี 3 รูปแบบ คือ)
   1.รูปแบบในระบบโรงเรียน
   2.รูปแบบนอกระบบโรงเรียน
   3.รูปแบบตามอัธยาศัย
3. รูปแบบการให้บริการแบบใหม่
คือ การรวมเด็กที่ผิดปกติและเด็กปกติไว้ด้วยกัน โดยเรียกแบบนี้ว่า “Normalization”

หลักในการบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
1. การบริหารงานวิชาการ
    เป็นการบริหารกิจกรรมทุกชนิดในโรงเรียน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงพัฒนาการสอนผู้เรียนให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพที่สุด
2. การบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาปฐมวัย
    คือ การปฏิบัติการใช้คนให้ทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีขบวนการต่าง ๆ
3. การบริหารงานธุรการและการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
   - งานธุรการในสถานศึกษา
   - งานการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
   - งานสารบรรณในสถานศึกษาปฐมวัย
   - งานทะเบียนและรายงาน
  - งานรักษาความปลอดภัย
   - งานการเงินและพัสดุ
   - งานพัสดุ
4. การบริหารงานกิจการนักเรียนในสถานศึกษาปฐมวัย
      คือ การดำเนินงาน เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมในโรงเรียนโดยนักเรียนสมัครใจร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาตนเอง
5. การบริหารสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาปฐมวัย
   - การบริหารสภาพแวดล้อมทางกายภาพ
   - การบริหารสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมและประสบการณ์

การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในยุคปฏิรูป
       ความหมาย การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management)  คือ การบริหารโดยกระจายอำนาจทางการศึกษาไปยังสถานศึกษาโดยตรงให้มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบและความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากที่สุด

หลักการในการบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน  (School Based Management)
   • หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization)
   • หลักการมีส่วนร่วม (Participation or Collaboration Involvement)
   • หลักการคืนอำนาจจัดการศึกษาให้ประชาชน ( Return Power to People)
   • หลักการบริหารตนเอง (Self - managing)
   • หลักการตรวจสอบและถ่วงดุล (Check and Balance)
รูปแบบโรงเรียนที่ใช้การบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน
   • ผู้บริหารโรงเรียนเป็นหลัก (Administrative Control School Council ) 
   • บริหารโดยครูเป็นหลัก (Professional Control Council)
   • การบริหารจัดการโดยชุมชนมีบทบาท (Community Control School Council) 
   • ครูและชุมชนมีบทบาทหลัก (Professional Community Control School Council)

องค์กรแห่งการเรียนรู้
ศาสตร์ทั้ง 5 ขององค์กรแห่งการเรียนรู้ (ปีเตอร์ เอ็ม. เซงเก (Peter M. Senge) 
   • การใฝ่ใจพัฒนาตน (Personal Mastery)
   • รูปแบบของความคิด (Mental Models)
   • วิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision)
   • การเรียนรู้เป็นทีม (Team Learning)
   • การคิดเชิงระบบ (System Thinking)


การบริหารแบบมีส่วนร่วม
สาระสำคัญของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
        • การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
• การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดการยอมรับในเป้าหมาย
• การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดความสำนึกในหน้าที่ความรับผิดชอบ
ผลดีของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
     • สร้างสรรค์ให้มีการระดมกำลังจากบุคคลต่าง ๆ
     • สร้างบรรยากาศและพัฒนาประชาธิปไตยในการทำงาน
     • ช่วยให้ลดความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงาน
     • การบริหารแบบมีส่วนร่วม
     • ผลงานที่เกิดขึ้น
     • สร้างความสมดุลระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติ
ข้อจำกัดของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
    • การแสดงความคิดเห็นเกิดข้อขัดแย้งกับฝ่ายบริหาร
    • ก่อให้เกิดกลุ่มอิทธิพล
    • ผู้บริหารกลัวสูญเสียอำนาจ
    • การบริหารงานไม่สามารถใช้กับงานที่เร่งด่วนได้
    • ใช้งบประมาณมาก
    • ความคิดเห็นจากบุคคลภายนอกไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
    • การไม่เข้าใจหน้าที่มักจะทำให้เกิดการก้าวก่ายหน้าที่ซึ่งกันและกัน
skills (ทักษะที่ได้รับ)
          -ทักษะการวิเคราะห์
          - ทักการตอบคำถาม
Adoption (การนำไปใช้)
   - นำความรู้ในวันนี้ไปใช้ในการบริหารสถานศึกษาเกี่ยวกับการศึกษาปฐมวัยได้ต่อไป
Evaluation (การประเมิน)
  Instructor Rating (ประเมินผู้สอน) อาจารย์อธิบายเกี่ยวกับองค์กรต่างๆในสถานศึกษาปฐมวัยได้อย่างเข้าใจ
        Rating friends (ประเมินเพื่อน) ตั้งใจกันทุกคนและแต่งกายเป็นระเบียบเรียบร้อย
        Self-evaluation (ประเมินตนเอง) เข้าใจเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาได้อย่า
เข้าใจมากยิ่งขึ้น


วัน พุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 5
วิชา การบริหารสถานศึกษา (Pre-School Administration)
กลุ่มเรียน 102
อาจารย์กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
วัน พุธ ที่  8 กุมภาพันธ์ 2560



 สะท้อนการเรียน


ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจาก
นักศึกษาปี 4 อบรมมารยาทไทย